15 กันยายน 2551

สุริยะใสทิ้งเพื่อน บอกไม่รู้จัก"ไผ่ครป."ถูกรวบนอนคุกพร้อม82ผู้ก่อการร้ายศรีวิชัย






เพื่อนยะใสไปนอนคุกรอล่วงหน้า-นิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ หรือ"ไผ่ครป."(เสื้อขาว)คนสนิทของสุริยะใสที่ถูกรวบพร้อมผู้ก่อการร้ายศรีวิชัยที่บุกยึดNBTเมื่อวานนี้ โดนเพื่อนรักอย่างสุริยะใสปฏิสธว่าไม่รู้จักในยามยาก ถูกส่งไปนอนคุกคลองเปรมเมื่อวานนี้ แต่นิติรัตน์ก็ชั่วไม่แพ้กันพยายามขอประกันตัวเพื่อเอาตัวรอดเพียงลำพัง หวังลอยแพเพื่อนที่เหลือ คาดวันนี้สุริยะใสกับอีก5แกนนำจะตามไปติดๆ




"ณัฐวุฒิ"อัด"สุริยะใส"เป็นลูกผู้ชาย รับคนใกล้ชิดร่วม82คนบุกNBT

เมื่อเวลา 07.30 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหนึ่งในผู้จัดรายการ"ความจริงวันนี้" ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ 82 คนที่บุกเข้าไปสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ในช่วงเช้ามืดวานนี้(26 ส.ค.) ว่า นายสุริยะใสต้องแสดงความเป็นลูกผู้ชายมากกว่าที่เป็นอยู่ รายชื่อ 82 คนที่ถูกจับกุมนั้น หลายคนเป็นคนใกล้ชิดของนายสุริยะใส

นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดาถามว่าต้องตรวจสอบดูรายชื่อก่อนหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า"ไม่ต้องตรวจสอบแล้ว จะตรวจสอบทำไม ในเมื่อหลายคนรู้จักและใกล้ชิด และทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกับคุณสุริยะใส กตะศิลา มาโดยตลอด หลายรายชื่อผมเห็นอยู่ ผมก็รู้จัก เพราะฉะนั้นคุณสุริยะใสจะแสดงตัวเองเป็นผู้นำประชาชน ไปเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้อย่างไร ในเมืองคนใกล้ชิดกับตัวเองถูกจับกุม โดยปฏิบัติงานที่เกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนไหวของคุณสุริยะใสแท้ๆ ยังไม่แสดงอาการยอมรับเลย" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอถามว่าถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาลไปปฏิบัติตัวผิดกฎหมาย และถูกตำรวจจับอีก นายสุริยะใสจะปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับคนเหล่านี้อีกหรือไม่

ส่ง 82ผู้ก่อการร้ายศรีวิชัยยัดคุกคลองเปรม มีชื่อคนสนิทสุริยะใสด้วย

วานนี้ (26 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 17.45 น.พ.ต.ต.อธิคม อภิชยกูลกิจ พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร พร้อมกำลังควบคุมตัวผู้ต้องหา นำโดย นายธเนศ คำชุม อายุ 43 ปี นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทใกล้ชิดนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตร กับพวกรวม 82 คน เป็นชาย 78 คน หญิง 4 คน กลุ่มนักรบศรีวิชัย

ผู้ต้องหาในความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างอื่นอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยมีอาวุธ กับข้อหาอื่นรวม 6 ข้อหา พร้อมของกลาง อาทิ อาวุธปืนพก 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน มีดดาบและมีดปลายแหลม วิทยุสื่อสาร หนังสติ๊กพร้อมกระสุนลูกหิน และของกลางอื่นๆ 25 รายการ กรณีร่วมกันบุกรุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินภายในอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา และบังคับเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงานให้หยุดทำงาน หยุดการออกอากาศ และให้ออกไปจากสำนักงานจนเจ้าหน้าที่ต้องกระทำตามด้วยความกลัว

พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครอบ 48 ชั่วโมง ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ แต่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอีก 15 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รวมทั้งผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติผู้ต้องหาจึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้มีกำหนด 12 วันจนถึงวันที่ 6 ก.ย.

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนี

ต่อมาทนายความจากสภาทนายความฯได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพยเป็นเงินสด คนละ 2 แสนบาท ขอประกันตัว นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ แกนนำสมัชชาคนจน กับ นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหา 13 และ 14 ซึ่งศาลอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้อง ส่วนผู้ต้องหารายอื่น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมไปไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป

สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่สถานแรกรับเด็กและเยาวชนบ้านเมตตา

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ากรณีนายนิติรัตน์นั้น เป็นรองเลขาธิการครป. หรือลูกน้องนายสุริยะใส ที่เคยร่วมมือกับสุริยะใสไปของบประมาณจากรัฐบาลเผด็จการขิงแก่16ล้านบาท อ้างว่านำไปรณรงค์ประชาธิปไตย มักแสดงตนว่าเป็นนักต่อสู้ แต่ตอนถูกจับคราวนี้กลับดิ้นรนขอประกันตัวเองเอาตัวรอด ขณะที่รายอื่นที่ถูกจับพร้อมกันกว่าอีก80คนอาจถูกลอยแพนอนคุกยาวผลัดแรก12วัน

"ณัฐวุฒิ"ซัดพันธมิตรฯก่อกบฎหลังยึดทำเนียบฯ

เมื่อเวลา 07.30 น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำนายกรัฐมนตรี และหนึ่งในผู้จัดรายการ"ความจริงวันนี้" ให้สัมภาษณ์ถึงการบุกยึดทำเนียบรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า ยืนยันว่า ทำเนียบฯ ไม่ใช่สถานที่คนจะเข้ายึดชุมนุมได้ ซึ่งการบุกรุกเข้าไปดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมาย ตำรวจจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดูแล อย่างไรก็ตาม ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว คิดว่าสถานการณ์ดังกล่าวรุนแรงเกินกว่าจะใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่นายสมัครอยากเห็นความสงบ จึงไม่ใช้แต่มอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท ดูแลแทน

การที่แกนนำพาผู้ชุมนุมเข้ายึดสถานที่ราชการ เป็นเรื่องไม่มีรัฐบาลประเทศใดรับได้ รัฐบาลจึงต้องใช้กฎหมายดำเนินการ เพื่อต้องปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของบ้านเมืองกลับคืนมาให้ได้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้เจรจากับแกนนำพันธมิตรฯ ตลอด 90 วันแต่ก็ไม่ได้ความร่วมือแต่อย่างใด หากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องลาออก ต้องเป็นไปตามกลไลของรัฐสภา แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำซึ่งหมายถึงการก่อกบฎในราชอาณาจักร ถือว่าเคลื่อนไหวลบล้างอำนาจ เพื่อเอาอำนาจนั้นไปบริหารเอง เห็นได้ชัดเจนจากกรณีบุกยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ปราศรัยบนเวทีเรียกหานายปราโมช รัฐวินิจ อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เพื่อให้มาเชื่อมสัญญาณเอเอสทีวีเข้ากับเอ็นบีที

นายณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่รายการความจริงวันนี้ ได้กล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรฯอย่างจริงจังเพียง 3 ครั้ง แต่ทั้งหมดก็พูดบนพื้นฐานความเป็นจริง ดังนั้นสิ่งที่พันธมิตรฯ กล่าวอ้างเพื่อบุกเข้าสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีนั้น ไม่เป็นข้อเท็จจริงและไม่มีความสง่างาม


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
27 สิงหาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น: