15 กันยายน 2551

ลิ้มนรกเหิมดึงฟ้าต่ำ อาจเอื้อมแอบอ้างพระราชินีลงเกลือกกลั้วการเมืองของตน



















นายสนธิ ยังกล่าวถึงการใส่ผ้าพันคอสีฟ้า เนื่องจากเป็นสีที่เป็นสัญญลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พร้อมระบุว่า ตนเองมีความชัดเจนในชีวิต แยกมิตรและแยกศัตรูอย่างชัดเจน การเมืองที่ถูกต้องมีแต่กัลยาณมิตร ศัตรูก็คือศัตรู ไม่ใช่การเมืองน้ำเน่าที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

สนธิลิ้มเหิมเกริมดึงฟ้าลงต่ำ อ้างใส่ผ้าพันคอสีฟ้า เนื่องจากเป็นสีที่เป็นสัญญลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ บังอาจยกพระราชเสาวนีย์มาเข้าข้างการเคลื่อนไหวทางการเมืองของตน ขณะที่พิภพแก้เกี้ยวป่วนเมือง26สิงหาฯไม่ได้ยึดฤกษ์วันเกิดเปรม สุริยะใสเผยเส้นทางเดินขบวนผ่านพระราชวังสวนจิตรฯ ทั้งด้านถนนราชวิถี-ศรีอยุธยา เสธ.แดงฮึ่มทหารนักรบไม่ยอมให้ม็อบย่ำยีดวงใจไทยทั้งชาติ ประกาศหากยกพวกมาวังสวนจิตรฯเจอนักรบตื้บแน่

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยัน การชุมนุมใหญ่วันอังคารที่ 26 สิงหาคมนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับวันคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่เป็นการกดดันเพื่อให้รัฐบาลลาออก หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส สถานะทางการเงินของประเทศ แต่รัฐบาลกลับไม่ปฏิบัติตาม พยายามลงทุนโครงการใหญ่เกินความจำเป็น เพื่อสะสมทุนในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ขณะที่พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือ"เสธ.แดง"ได้เขียนกระทู้ในเวปเสธแดงตามสไตล์ของเสธแดงว่า"ไอ้พวกควายคนไทยขายชาติตัวจริง ที่ถูกเจ็กบ้าหลอกมาตบมือแพะๆ แล้วมันได้เงินไป 80 ล้าน

วันที่ 26 นี้ ถ้ามันหลอกมึงเดินผ่านสวนจิตรแล้วหยุดร้องเพลง แทนที่จะไปโรงเรียนโยธินฯ ทำแบบวันที่ 14 ตุลาคม 2516 ตุลาวิปโยค ที่ ผกค.หลอกควายเดินผ่านสวนจิตร จนตำรวจต้องตีตกน้ำ เพราะจะปีนสวนจิตรไปหาในหลวง สร้างความวุ่นวาย แล้วแกล้งระเบิดโทษเบื้องสูง ไม่คุ้มครอง ชาติดูทั่วโลก

มึงเจอ เสธ.แดง แน่ ไอ้เจ็กลิ้ม ไอ้เจ็กกบฎ และไอ้พวกคนไทยควายโง่ที่เหมารถมาจากต่างจังหวัดทั้งหลาย ถ้าทหารนักกอล์ฟ ผู้นำทัพลูกป๋าปัจจุบันยังไม่เอาเรื่องพวกมึง มึงเจอทหารนักรบรวมพลแน่ ตกลงกันแล้วว่าเลิกนั่งส่องพระที่ห้างบางลำพูชั่วคราว หันมาช่วยกันกระทืบไอ้พวกกู้ชาติกลางถนนราชดำเนินหน่อย" (http://www.sae-dang.com/cgi-bin2/dangBoard/OpenMessage.php?no=53854)

การที่เสธ.แดงดักคอพันธมิตรว่าอาจมีแผนชั่วเดินขบวนผ่านพระราชวังสวนจิตรลดานั้นน่าจะมาจากการเปิดเผยของนายสุริยะใส กตศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรที่ได้แถลงข่าวว่า "ช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค.ต้องขออภัยประชาชนชาวกรุงเทพมหานครล่วงหน้า รวมถึงผู้ใช้เส้นทาง 4-5 เส้น ดังนี้ ถนนราชดำเนินตลอดทั้งเส้น ถนนอู่ทองใน ถนนราชวิถี ถนนศรีอยุธยา ถนนพิษณุโลก และถนนสามเสน เนื่องจากมีคนมาจำนวนมาก จนอาจจะต้องปิดถนนไปโดยปริยาย
(http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000100006)

ทั้งนี้พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน มีสถานที่ตั้งอยู่ระหว่างถนนราชวิถี ถนนศรีอยุธยา และถนนสามเสน หากเป็นไปตามที่นายสุริยะใสกล่าวก็คาดว่าพันธมิตรจะเดินขบวนจากถนนราชดำเนิน ผ่านพระรูปทรงม้า ผ่านถนนอู่ทองใน ซึ่งเป็นที่ตั้งรัฐสภา ผ่านถนนราชวิถี และเลี้ยวเข้าถนนศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งวังสวนจิตรฯ แล้วไปผ่านถนนพิษณุโลก บริเวณที่ตั้งทำเนียบรัฐบาล ส่วนถนนสามเสนนั้นอยู่บริเวณใกล้เคียงวังสวนจิตรฯ

สนธิลิ้มเหิมเกริมอ้างม็อบตามพระราชเสวานีย์

ขณะที่ผู้จัดการออนไลน์สื่อกระบอกเสียงของพันธมิตรและสนธิลิ้ม พาดหัวข่าวหน้าแรกระบุว่า "สนธิ"ยกพระราชเสาวนีย์ เปรียบ"พันธมิตร"เหมือนพระโมคลานะไล่พระทุศีล เพื่อให้พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมก เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศต่อสู้เพื่อ “พ่อหลวง” หลังสัญญาณนกหวีดใหญ่ “บ้านเมืองใกล้ล่มจม” ย้ำคำว่า “เรารักในหลวง” อย่างเดียวคงไม่พอ ตั้งข้อสังเกตคำพูด “ชัยสิทธิ์” อัดผู้พิพากษามีตัวใหญ่อยู่เบื้องหลัง หมายความว่าอย่างไร

ข่าวรายละเอียดตามhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000100052ระบุว่า
ในวันที่ (24 ส.ค.) เวลาประมาณ 21.05 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยกล่าวถึงการสวมเสื้อสีเหลือง "เราจะสู้เพื่อในหลวง" ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณเมื่อปี 2549 เพราะในช่วงนั้น ยอมรับว่ามีกลุ่มคนที่จ้องทำลายพ่อหลวงของเรา โดยเฉพาะกลุ่มของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และบริวาร โดยพบว่าคนเหล่านี้ มีการเหยียบย่ำจาบจ้วงมาตลอด ตั้งแต่ปี 2544 และในที่สุด ตนเองจึงได้ลุกขึ้นมาต่อสู้พร้อมกับประชาชน

นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อช่วงปี 2548 เรามักจะได้เห็นเสื้อที่มีคำว่า "เรารักในหลวง" แต่สถานการณ์ขณะนั้น หากจะบอกว่ารักพ่อหลวงอย่างเดียวคงไม่พอ เราต้องสู้เพื่อพระองค์ท่านด้วย เพราะพระองค์ท่านทรงเมตตา และเปี่ยมไปด้วยทศพิศราชธรรม คอยห่วงใยพสกนิกร แต่ท่านทรงอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถพูดอะไรได้

นายสนธิ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เคยทรงเล่าเรื่องพระไตรปิฎก ตอนที่พระพุทธเจ้าจะแสดงโอวาทปาติโมก แต่ทรงนิ่งเงียบ ไม่สามารถกระทำได้ กระทั่งพระอานนท์ กล่าวเตือนเป็นครั้งที่ 3 ก็ทรงบอกว่า ดูก่อนพุทธบริษัททั้งหลาย เราไม่สามารถแสดงโอวาทปาติโมกได้ เพราะมีพระทุศีลหนึ่งองค์อยู่ในที่นี้ แต่ไม่สามารถแสดงออกได้ ดังนั้น พระโมคลานะซึ่งเป็นพระที่ทรงอิทธิฤทธิ์ จึงใช้ฌานนั่งเห็น จึงไปบอกพระทุศีลว่า ท่านมีศีลไม่ครบแล้วพระโมคลานะจึงไปกระชากแขนออกไป จึงสามารถแสดงโอวาทปาติโมกได้

"เปรียบเช่นเดียวกับในยุคนี้ ดังนั้นในวันที่ 26 ส.ค.นี้ พวกเราที่นั่งกันอยู่ในที่นี้ จะขอเป็นพระโมคลานะเดินไปกระชากแขนคนชั่วออกจากแผ่นดินไทย เพราะหากเปรียบแล้ว พ่อหลวงของเรา ก็เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้า ที่ไม่สามารถทรงพูดอะไรได้ ตั้งแต่ปี 2544พระองค์ท่านทรงเจอแต่เรื่องที่ถูกใส่ร้ายจ้องทำลายล้าง แต่ท่านก็ไม่เคยตรัสให้พวกเราทราบสักคำ"

นายสนธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า พระองค์ท่านทรงมีวันที่มีโอกาสตรัสกับพสกนิกรของท่านเพียงปีละ 1 วัน คือ วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. พระองค์ท่านก็จะทรงตรัสด้วยความเมตตา ไม่เคยลุกขึ้นมาว่ากล่าวใคร พระองค์ท่านทรงห่วงเรื่องเดียวคือประเทศชาติ และทรงพูดอยู่เรื่องเดียวคือ อย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน พระองค์ท่านจะไม่เคยรีรอ หากเกิดน้ำท่วม ฝนแล้ง หรือฝนตกหนัก พระองค์ท่านไม่เคยรีรอที่จะทรงแสดงความเป็นห่วง

นอกจากนี้ นายสนธิ ยังกล่าวถึงการใส่ผ้าพันคอสีฟ้า เนื่อจากเป็นสีที่เป็นสัญญลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พร้อมระบุว่า ตนเองมีความชัดเจนในชีวิต แยกมิตรและแยกศัตรูอย่างชัดเจน การเมืองที่ถูกต้องมีแต่กัลยาณมิตร ศัตรูก็คือศัตรู ไม่ใช่การเมืองน้ำเน่าที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

นายสนธิ ยังได้ถามไปยังคนในระบอบทักษิณว่า เราจะยืนข้างในหลวงและพระราชินี มีอะไรหรือเปล่า หากพวกตนจะยืนข้างราชบัลลังก์ นายจักรภพ นายวีระ นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร มีอะไรหรือเปล่า นปก.มีอะไรหรือเปล่า และถามคนพรรคพลังประชาชน (พปช.) ที่เทิดทูน"แม้ว"เป็นพ่อ หากพวกเราจะเทิดทูนในหลวงเป็นพ่อ มีอะไรหรือเปล่า

"มีหรือไม่มี วันที่ 26 ส.ค.นี้ เราเจอกัน พวกนักเลงที่ไล่ตีคนแก่ เอาหินมาไล่ปา พวกที่จาบจ้วงสถาบันที่ท้องสนามหลวง ถ้าพวกเราไม่เปิดโปง ตำรวจมันจะเข้าไปจับหรือ พี่น้องทั่วประเทศ เราจะยืนข้างและสู้เพื่อพระองค์ท่าน แม้จะไม่ทรงขอมาก็ตาม"

นายสนธิ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชัยสิทธิ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ.ลูกพี่ลูกน้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาบอกว่า สาเหตุที่ทักษิณต้องออกไป เพราะมีผู้พิพากษาที่ไม่ถูกกับทักษิณมานั่งพิจารณาคดี และมีคนที่เหนือกว่านั้นมาใช้แรงกดดัน พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร

นายสนธิ ยังระบุอีกว่า ตอนที่ตัวเองโดนตัดสินคุก 3 ปี ทำไมไม่เคยพูดสักคำว่า ผู้พิพากษาเป็นพวกของทักษิณ เพราะผู้พิพากษาทุกท่าน เป็นตัวแทนของในหลวง และเหนือหัวของผู้พิพากษาทุกท่าน ก็จะมีรูปของพระเจ้าอยู่หัว สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ เราผิดหรือไม่ผิดเรารู้อยู่แก่ใจ หากอมเลือดได้ก็จะอม ไม่ขอพูดสักคำ เพราะเราทำงานให้พรองค์ท่าน คนเรามันต่างกัน ทั้งคุณธรรม และจริยธรรม แม้ใจก็ยังต่างกัน

นายสนธิ ระบุว่า นกหวีดใหญ่ คือ คำของพระองค์ท่านที่ว่า "ชาติใกล้ล่มจมแล้ว" เปรียบเหมือนพระพุทธเจ้าที่พูดกับพระอานนท์เรื่องพระทุศีล และไม่สามารถแสดงโอวาทปาติโมกได้ พวกเราจะเป็นพระโมคลานะในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ไม่ใช่แค่เรียกร้องแผ่นดินไทยกลับคืน แต่พวกเราจะเรียกสังคมไทยกลับคืนมา ทั้งศีลธรรมและจริยธรรม สงครามครั้งสุดท้ายแล้วพี่น้อง เราต้องชนะ ชนะ ชนะ

ไม่มีความคิดเห็น: