15 กันยายน 2551

จะหวังให้ 'ไพร่ทาส' สู้เพื่อเสรีภาพของ 'เสรีชน' นั้น เป็นไปไม่ได้




















คนเป็นไพร่ทาส ก็เพราะมีสันดานและจิตสำนึกแบบไพร่ทาส ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไพร่ทาส เติบโตมาอย่างไพร่ทาส
คนพวกนี้ ทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือ ทำตามคำสั่งของนาย และคอยเออออห่อหมกกับนาย
ต่อให้นายของตัวกระทำผิด เลวทรามเพียงใด ไพร่ทาสก็ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง
คนพวกนี้จะกล้าดี ก็เฉพาะกับคนอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับนายของตัว แต่กับนายของตัวหรือคน ของนายของตัว ไพร่ทาสมันจะเหงื่อตก ก้มหน้าด้วยความกลัว

คนพวกนี้แม้กระทั่งถูกนายดุด่า โบยตี อย่างไร้เหตุผลและไม่เป็นธรรม แต่ด้วยจิตสำนึกไพร่ทาส ที่ฝังลึกในกมลสันดาน มันก็จะก้มหน้า รับแต่โดยดี ไม่เคยแม้แต่จะนึกตั้งคำถามว่า ถูกดุด่าโบยตีด้วยข้อหา ที่เป็นธรรม ถูกต้อง หรือไม่
นั่นเพราะสันดานไพร่ทาส พอเห็นนายมอง ไปที่แส้หวายแค่นั้น มันก็เหงื่อแตก ตัวสั่นงันงก ก้มลงไหว้ปะหลก ๆ ร้องขอความเมตตาเสียงหลง

เสรีชนนั้น มีเสรี เพราะในจิตสำนึกและกมลสันดาน มีความเชื่อหยั่งลึก และไม่สงสัยเลยว่า "คนเรานั้นเท่ากัน"
สถานะ นาย กับ ลูกน้อง เป็นเรื่องของการงาน ที่ต้องมีลำดับชั้น ก็เพื่อไปบรรลุวัตถุประสงค์ของงาน ไม่ใช่เรื่องดีเอ็นเอ
เสรีชน จึงยึดเอาความถูกต้องเป็นธรรมเป็นหลักการ
สำคัญที่สุด จุดจบของคนที่มีจิตสำนึกไพร่ทาส มีเพียงสองอย่างเท่านั้น ถ้าไม่รับใช้ นายจนตัวตาย ก็ต้องตายเพราะถูกนายเฆี่ยนตี
คนอย่างนี้ เวลาตาย ไม่มีใครเขาสังเวชให้ แม้แต่นายมัน ก็ยังไม่หันมาดู เพราะเป็นการตายของไอ้ไพร่ไร้ราคาคนหนึ่งเท่านั้น
เรื่องนี้สอนให้เสรีชนรู้ว่า มีแต่เสรีชนด้วยกันเท่านั้น ที่จะสู้เพื่อเสรีชน ด้วยกัน จะหวังให้ ไพร่ทาส มันมาสู้เพื่อเสรีภาพของเสรีชนนั้น เป็นไปไม่ได้

โดย Pichit Likitkijsomboon
29 สิงหาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น: