15 กันยายน 2551

ได้เวลาการเมืองเสียงข้างมาก ปรับยุทธศาสตร์ใหม่






• บทเรียนของ พรรคไทยรักไทย ยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค กระทั่งล่าสุด พรรคพลังประชาชน ที่มี สมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค น่าจะได้ ข้อสรุปแล้วว่า ยุทธศาสตร์การเมืองแบบ รวมศูนย์ อำนาจ ไว้ที่พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว ได้กลายเป็นเรื่องที่ เสี่ยงอันตรายอย่างมากในเมืองไทย

• ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการ แตกตัว ของพรรคการเมืองใหญ่ที่ตกเป็นเป้าทำลายล้างจากศัตรูทางการเมืองมาโดยตลอด “เห่าไฟ” เชื่อว่า พรรคพลังประชาชน จะมีการแยกตัวออกไปตั้งพรรคการเมืองไม่ต่ำกว่า 2 พรรค แม้ผิวเผินจะดูเหมือนแต่ละก๊กแตกคอกัน แต่แท้จริงแล้ว การเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร หากมีใครบางคนสามารถ บริหารจัดการ แต่ละก๊กที่แยกไปอยู่แต่ละพรรคให้กลับมาร่วมมือกัน ได้อีก คนคนนั้นก็จะกลับมา ครองอำนาจ ในรูปแบบใหม่อีกครั้ง

• หลายคนที่ไม่ชอบหน้า อดีตนายกฯทักษิณ ได้ยินเช่นนี้ คงเป็นเดือดเป็นแค้นจนอกแทบระเบิด แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะนั่นคือ ความเป็นจริง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

• เมื่อเป็นเช่นนี้ ประชาชนจำนวนมากที่ชื่นชอบการทำงานฉับไว เห็นผลเป็นรูปธรรม ของ อดีตนายกฯทักษิณ ก็เลยบันทึกความทรงจำในช่วงที่ รัฐบาลทักษิณ บริหารประเทศเอาไว้เป็นต้นแบบในการเปรียบเทียบกับรัฐบาลอื่นๆ ถ้าตราบใดที่ยังไม่มีรัฐบาลที่ดีกว่ารัฐบาลทักษิณเกิดขึ้น อดีตนายกฯทักษิณ ก็จะกลายเป็น บุคคลที่ทรงอิทธิพลทางการเมืองของเมืองไทยไปตลอดกาล

• จริงๆแล้ว ประเทศไทยอะไรๆก็ดีหมด ยกเว้นอย่างเดียว นั่นก็คือ คนไทยชอบทำลายกันเอง เห็นใครเด่นใครดังเกินหน้าไม่ได้ ต้องหาทางใส่ร้ายป้ายสี กระทืบให้จมดิน แต่ถามว่า หลังจากทำลายคนเก่งไปแล้ว มีการหาคนที่เก่งกว่ามาทดแทนหรือไม่ คำตอบก็คือ เปล่าเลย บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ช่างหัวมัน คนจนก็จนต่อไป อย่าได้ลืมตาอ้าปากอีกเลยชาตินี้

• และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่า ทำไมเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง พรรคการเมืองที่ อดีตนายกฯทักษิณ ให้การสนับสนุนจึงชนะเลือกตั้งทุกที ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดูบ้างเป็นไร ประชาชนที่ยากจนข้นแค้นในชนบท ถูกทอดทิ้งมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย รัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้งทุกยุค รวมทั้ง ระบบราชการ ไม่เคยสนใจไยดี ไม่เคยเห็นคุณค่า ปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตไปตามยถากรรมมาโดยตลอด

• แต่หลังจาก รัฐบาลทักษิณ ประกาศนโยบายช่วยเหลือคนยากจนเหล่านี้อย่างจริงจัง ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป “เห่าไฟ” หยิบยกเรื่องนี้มาพูด ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอยู่นอกประเทศ แต่ก็ยัง ชี้นำการเมือง ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ตาม แต่อดีตผู้นำประเทศคนนี้ ก็จะยังเป็น ตัวแปรที่สำคัญ ทางการเมืองอยู่ต่อไป

• ด้วยเหตุนี้ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน จึงตกอยู่ในภาวะที่ทำงานอย่างยากลำบากที่สุด เพราะต้องคอยประสาน ขุมพลังอำนาจทุกขั้วในบ้านเมือง ไม่ให้เกิดการปะทะขั้นแตกหัก หลายคนไม่เข้าใจ สมัคร ต่างโจมตีด่าทอสาดเสียเทเสีย แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าไม่มี สมัคร คอยวิ่งประสานให้ทุกขุมพลังอำนาจลดความร้อนแรงลง รับรอง ป่านนี้บ้านเมืองคง ลุกเป็นไฟเลือดนองแผ่นดินไปนานแล้ว

• ตอนนี้ “เห่าไฟ” กำลังติดตามดูว่า สงครามเย็นทางการเมืองที่เกิดขึ้น จะเป็นอย่างไร ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะจะมีบุคคลสำคัญของบ้านเมืองนำเสนอ ทางแก้ที่ชาญฉลาด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่ ทุกสิ่งทุกอย่าง ตรงหน้า ล้วนไม่มีอยู่ในตำรารัฐศาสตร์ ต้องติดตามกันสดๆจากสถานการณ์จริงเท่านั้น

• ถกกันเรื่องการฟ้องอายัดทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กันบ้าง เรื่องนี้ “เห่าไฟ” เห็นด้วยว่า ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมายบ้านเมือง แต่ทุกคนก็มีสิทธิ ตั้งคำถาม กับ กระบวนการยุติธรรม ที่มีต้นกำเนิดมาจาก คณะปฏิวัติ ได้เช่นกันว่า ทุกสิ่งที่ทำลงไปนั้น เป็นไปตาม หลักนิติธรรม หรือไม่

• ข้อแรกที่เห็นกันชัดๆ ก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาเล่นการเมือง หรือก่อนเป็นนายกฯ ทุกคนในบ้านเมืองต่างก็รู้กันดีว่า พ.ต.ท. ทักษิณ มีทรัพย์สินหลายหมื่นล้านอยู่ ก่อนแล้ว ฉะนั้น การกล่าวหาว่า ร่ำรวยผิดปกติ เพื่อยึดทรัพย์สินทั้งหมด 7.6 หมื่นล้านบาท จึงมีคำถามตามมาว่า ได้มีการ แยกแยะ ทรัพย์สินออกให้ชัดเจนหรือไม่ว่า ทรัพย์สินใดได้มาก่อนหรือหลังดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะทรัพย์สินที่ได้มาก่อนนั้น ต้องถือว่า สุจริต หากไปยึดหรืออายัด ก็อาจมีปัญหาเรื่องความชอบธรรมเกิดขึ้น

• หากถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรถูกตรวจ สอบหรือไม่ คำตอบก็คือ ควรตรวจสอบเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องไม่มากหรือน้อยไปกว่าอดีตนายกฯคนอื่นๆทุกคน กระบวนการก็ต้องใช้กระบวนการเดียวกัน ไม่ใช่ไปตั้ง กลไกพิเศษ ขึ้นมาตรวจสอบเป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นการกระทำที่ ผิดแผกแตกต่างไปจากการตรวจสอบ อดีตผู้นำประเทศ ที่เคยประพฤติปฏิบัติกันมา

• “เห่าไฟ” ตั้งคำถามเอาไว้ตรงนี้ เพื่อต้องการค้นหา บรรทัดฐานเดียวกัน หรือ มาตรฐานเดียวกัน ในการปฏิบัติต่อ ผู้นำประเทศไทยทุกคน ไม่ใช่เฉพาะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงความยุติธรรมของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง ซึ่งจะนำไปสู่ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือ ไร้ความศักดิ์สิทธิ์ได้ในที่สุด

โดย คุณ เห่าไฟ
ที่มา เวบไซต์ ไทยรัฐ
24 สิงหาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น: