15 กันยายน 2551

ประนาม บุคคลอันตรายสำหรับประชาธิปไตยไทย:9กบฎโทษสูงสุดประหารชีวิต





ไฮ!-สนธิ ลิ้มทองกุล ท่านผู้นำขบวนการพันธมิตรนำทีม9แกนนำ โดนศาลอาญาสั่งออกหมายจับฐานเป็นกบฎ โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ล่าสุดยังไม่ยอมจำนน ปลุกระดมสาวกบริวารดื้อแพ่ง ขณะที่นักศึกษาประชาชนทั่วประเทศออกแถลงการณ์ประนาม และผลสำรวจโพลล์ต่างๆไม่เอาด้วย

ประนามานุกรมบุคคลอันตรายสำหรับประชาธิปไตยไทย งวดนี้มาเป็นยวงรวม9คน ศาลอาญาออกหมายจับข้อหาขบถแผ่นดิน โทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต 5แกนเน่า+ยะใสพ่วงด้วยเทิดภูมิส.ส.สอบตก และอมร อมรรัตนานนท์ที่นำทีมยึดNBT

เมื่อวานนี้(27ส.ค.)ศาลอาญาได้พิจารณาคำร้องขอพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสารและคณะแล้วมีคำสั่ง ว่าโดยพิเคราะห์พฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 9 ตามที่พยาน ผู้ร้อง ได้ให้การประกอบหลักฐานวีซีดีที่นำส่งแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานพอสมควรให้เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 9 น่าจะกระทำการอันเป็นความผิดอาญาตาม คำร้อง จึงอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ตามคำขอ

ผู้ต้องหาทั้ง9ราย ประกอบไปด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตร นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร นายอมร อมรรัตนานนท์ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ นายเทิดภูมิ ใจดี แนวร่วมพันธมิตร

ทั้งนี้เนื่องจากผู้ต้องหาที่ 1-9 ฐานใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, สะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการ หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี มาตรา 114, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิก ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 215 และ 216

กางข้อหาเอาผิด 9 "พันธมิตร" ระวางโทษประหาร!

ประมวลกฎหมายอาญา หมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ระบุ มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย (1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจการปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต

มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการ หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏ แล้วกระทำการอันใดเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี

ลักษณะความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน

มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้ใดกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ บรรดาผู้ที่กระทำผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าผู้กระทำผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำผิดนั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำผิดตามาตรา 215 ให้เลิกแล้ว ผู้ใดไม่เลิก ต้องระวางโทษจำคุก

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
28 สิงหาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น: